IPOInsight: YONG สร้างฐานธุรกิจคอนกรีตครบวงจรขยายอาณาจักรสู่ EEC

บมจ.ยงคอนกรีต (YONG) ระดมทุนขยายการผลิตเพื่อเสริมศักยภาพการให้บริการคอนกรีตครบวงจรในฐานเดิมที่มีอยู่ พร้อมวางเป้าหมายในอนาคตที่จะสยายปีสู่พื้นที่ EEC เพื่อแสวงหาโอกาสการเติบโตจากแผนพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่จะนำมาสู่การเกิดแหล่งชุมชนและที่อยู่อาศัยตามมา โดยอาศัยจุดแข็งการมีผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปพร้อมบริการเกี่ยวเนื่องที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วนทั้งโครงการ โดยเฉพาะโครงการแนวราบ หวังสร้างการเติบโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 10-15%

YONG เปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 180 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็น P/E ที่ประมาณ 26.10 เท่า ระหว่างวันที่ 21-22 และ 25 ก.ค.65 และเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก 2 ส.ค.65 ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง

จากร้านวัสดุก่อสร้าง สู่ผู้นำคอนกรีตครบวงจร

นายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร กรรมการผู้จัดการ YONG ให้สัมภาษณ์กับ “อินโฟเควสท์” ว่า บริษัทเริ่มจากการเปิดร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในปี 31 และพัฒนามาสู่การเปิดโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete Plant) แห่งแรกที่ จ.กาญจนบุรี ในปี 34 ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี จนในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 3 โรงงาน และยังมีโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-mixed Concrete Plant) อีก 6 แห่ง กระจายอยู่ในภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคตะวันออก

“โครงสร้างรายได้ของบริษัทแบ่งเป็นธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปและการรับเหมาติดตั้งประมาณ 80% ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 15-20% จะเป็นรายได้ของธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ ซึ่งทั้ง 2 ธุรกิจของเราจัดจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า YONG” นายสรรเพชญกล่าว
กลุ่มลูกค้าของบริษัทอยู่ในหลากหลายภาคส่วน ทั้งกลุ่มภาคเอกชน คิดเป็นสัดส่วนราว 30%, กลุ่มลูกค้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ราว 10-20% และกลุ่มลูกค้าทั่วไป อาทิ ผู้รับเหมา ร้านค้า อีกราว 60% ซึ่งการมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี

สินค้าครบวงจรเจาะตลาดบ้านแนวราบรับแนวโน้มตลาดอสังหาฯฟื้น

นายสรรเพชญ กล่าวอีกว่า ผลิตภัณฑ์คอนกรีตของทางบริษัท ล้วนเป็นชิ้นส่วนสำคัญในโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบเกือบทั้งสิ้น ทำให้บริษัทเน้นไปที่การดูแลกลุ่มลูกค้าผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นหลัก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของ YONG สามารถตอบสนองลูกค้าได้เกือบทั้งโครงการ

“ผมว่าธุรกิจบ้านแนวราบยังขยายและเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการแพร่ระบาดวิด-19 พบว่ามีการเปลี่ยนจากคอนโดมิเนียมมายังที่อยู่อาศัยแนวราบจำนวนมาก บวกกับการ Work from Home ก็ทำให้คนให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยส่วนตัวมากขึ้น ทำให้เราคาดว่าธุรกิจภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะบ้านแนวราบในพื้นที่ปริมณฑล จะเติบโตค่อนข้างสูง” นายสรรเพชญ กล่าว
บริษัทให้ความสำคัญไปที่การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกค้า โดยมีโปรแกรมออกแบบ 3 มิติ เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพก่อนผลิตจริง สร้างความถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งหลังออกแบบยังมีบริการขนส่งและรับติดตั้งที่ไซต์งานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

“ในธุรกิจเรา ยังประกอบไปด้วยบริษัทลูก อย่างบริษัท พร้อมขนส่ง จำกัด ที่ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้า เรามีรถขนส่งด้วยระบบ GPS พร้อมให้บริการกว่า 100 คัน เพื่อทำให้เราสามารถส่งสินค้าให้ลูกค้าได้อย่างตรงเวลา ” นายสรรเพชญกล่าว
ขณะเดียวกัน YONG ยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อาทิ คอนกรีตผสมเสร็จ, คานเสาสำเร็จรูป, แผ่นพื้นสำเร็จรูป, ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป, เสาเข็มคอนกรีต หรือ เสาไฟฟ้าคอนกรีต ซึ่งการมีผลิตภัณฑ์ที่ครบครัน ทำให้บริษัทสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร

“เรื่องความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ๆ คือเรามีผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่หลากหลายไว้ตอบสนองลูกค้า หรืออย่างการออกแบบรั้วสำเร็จรูป เราก็ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบและการติดตั้งรั้วสำเร็จรูปจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้เราแตกต่างจากผู้ผลิตคอนกรีตรายอื่นทั่วไป” นายสรรเพชญ กล่าว

แผนคุมต้นทุน-เศรษฐกิจฟื้นหนุนรายได้โตต่อเนื่อง 10-15% ต่อปี

ปัจจุบันทั่วโลกกำลังเผชิญกับสถานการณ์ราคาวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งเหล็กเส้น หรือ ปูน แต่บริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนด้วยการล็อกราคาสินค้า หลังจากได้รับออเดอร์จากลูกค้ามา เพื่อให้บริษัทผลิตสินค้าได้อย่างต่อเนื่องและส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตามกำหนด รวมถึงยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี ที่จะทำให้ควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“ธุรกิจของเรานำระบบไอทีมาปรับใช้ค่อนข้างมาก อย่างในด้านการผลิต เราก็ซื้อเครื่องจักรมาจากประเทศเยอรมัน หรือด้านระบบบริหารจัดการองค์กร (ERP) เราก็ใช้ Microsoft Dynamics AX เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เรามองว่าการบริหารจัดการและการควบคุมต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องไม่ผลักภาระต้นทุนไปที่ลูกค้า ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญในการทำงานของเรา” นายสรรเพชญกล่าว
และแม้ว่าในช่วงปี 63 ที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทอยู่บ้าง เนื่องจากมีข้อจำกัดจากมาตรการภาครัฐต่าง ๆ แต่ในช่วงปี 64 ยอดขายก็เริ่มฟื้นตัวมากขึ้น ต่อเนื่องมาจนถึงในปี 65 ทำให้ปัจจุบันบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ยราว 10-15% ต่อปี

ระดมทุนขยายโรงงาน สถานีต่อไปมุ่งเป้า EEC

YONG มีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อนำไปใช้ลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปที่ อ.บางเลน จ.นครปฐมเพิ่มอีก 1 แห่งในพื้นที่เดิม เพื่อขยายกำลังการผลิตและพัฒนาระบบที่เกี่ยวข้องราว 120 ล้านบาท รวมทั้งลงทุนก่อสร้างโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี อีก 20 ล้านบาท อีกทั้งใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน 120 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 190 ล้านบาทจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ

“การประกอบธุรกิจมาตลอด 30 ปี สิ่งที่ทำให้ YONG เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน นั่นคือการขยายโรงงาน ซึ่งแผนธุรกิจหลังจากเข้าตลาดฯ และขยายโรงงานที่นครปฐมและนนทบุรีเรียบร้อยแล้ว

เป้าหมายต่อไปคือเราจะขยายโรงงานไปในระยองหรือชลบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีการพัฒนาค่อนข้างสูง และปัจจุบันเรายังอยู่ระหว่างการศึกษาพื้นที่ที่มีศักยภาพในภูมิภาคอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อขยายการเติบโตอีกในอนาคต” นายสรรเพชญ กล่าว

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=66PeACIgTbc&t=4s

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ส.ค. 65)